อุปกรณ์ตกหมึกสำหรับมือใหม่ที่ควรรู้
1. คันเบ็ดตกหมึก
คันเบ็ดเป็นอุปกรณ์หลักที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการตกหมึก โดยทั่วไปคันเบ็ดที่ใช้สำหรับตกหมึกจะเป็นคันอ่อน น้ำหนักเบา และมีความยืดหยุ่นดีเพื่อช่วยให้การเหวี่ยงเหยื่อและการควบคุมโยกุ้งทำได้อย่างแม่นยำ
- คันเบ็ดตกหมึกชายฝั่ง: มีความยาวประมาณ 8.3 – 8.6 ฟุต เหมาะสำหรับการตกหมึกจากชายฝั่ง เนื่องจากสามารถเหวี่ยงเหยื่อไปได้ไกล
- คันเบ็ดตกหมึก Tip Run: มีความยาวอยู่ที่ 6.6 ฟุต ออกแบบมาสำหรับเทคนิค Tip Run ซึ่งเป็นวิธีตกหมึกที่ต้องอาศัยการควบคุมโยกุ้งที่แม่นยำ
- คันเบ็ดตกหมึกบนเรือ: ควรเลือกคันเบ็ดที่มีความยาว 7.3 – 7.6 ฟุต เพื่อให้เหมาะกับการตกหมึกขณะเรือเคลื่อนตัวเข้าชายฝั่ง
2. รอกตกหมึก
รอกตกหมึกเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ตกหมึกที่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยทั่วไปนิยมใช้ รอกสปินนิ่ง (Spinning Reel) ซึ่งเป็นรอกที่ใช้งานง่ายและควบคุมได้ดี
- ขนาดรอกที่แนะนำ: ไม่ควรเกิน เบอร์ 3000 เพราะขนาดนี้เพียงพอสำหรับการตกหมึกโดยไม่ทำให้เกิดน้ำหนักที่มากเกินไป
- ตัวเลือกของรอก: มีหลากหลายช่วงราคา ตั้งแต่รุ่นราคาประหยัดไปจนถึงรุ่นระดับพรีเมียม ซึ่งอาจมาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยให้การตกหมึกมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. โยกุ้ง (เหยื่อตกหมึก)
โยกุ้งเป็นเหยื่อปลอมที่ถูกออกแบบมาให้เลียนแบบกุ้งจริงเพื่อดึงดูดหมึก การเลือกขนาดและสีของโยกุ้งมีผลต่อโอกาสในการตกหมึกได้สำเร็จ
- ขนาดโยกุ้งที่นิยม: เบอร์ 2.0 – 3.5 ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสำหรับการตกหมึกจากชายฝั่ง
- สีของโยกุ้งที่แนะนำ:
- สีส้ม – เหมาะกับการตกหมึกทั่วไป
- สีเขียวตองหลังส้ม – ใช้ได้ดีในสภาพแสงธรรมชาติ
- สีเขียวตอง – เหมาะกับน้ำที่มีความขุ่นเล็กน้อย
- โยกุ้งแบบเรืองแสง: ควรเลือกใช้ในช่วงคืนเดือนมืดหรือสภาพน้ำขุ่น เพราะแสงเรืองสามารถช่วยดึงดูดหมึกได้ดีขึ้น
4. สาย PE
สายตกหมึกที่นิยมใช้คือ สาย PE เนื่องจากมีความแข็งแรง น้ำหนักเบา และช่วยให้การควบคุมเหยื่อทำได้ง่ายขึ้น
- ขนาดที่เหมาะสม: มักใช้ไม่เกิน เบอร์ 2 เนื่องจากให้สมดุลที่ดีระหว่างความแข็งแรงและความลื่นไหลของสาย
- ข้อดีของสาย PE: มีแรงต้านต่ำ ทำให้เหยื่อเคลื่อนที่เป็นธรรมชาติและช่วยลดโอกาสที่หมึกจะระแวงเหยื่อ
5. ไฟล่อหมึก
การตกหมึกในเวลากลางคืนจำเป็นต้องมี ไฟล่อหมึก เพื่อดึงดูดหมึกเข้ามาใกล้บริเวณที่ตก
- ประเภทของไฟล่อหมึก: ควรเลือกไฟที่มีความสว่างสูง เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล
- สีของแสงที่แนะนำ:
- แสงสีฟ้า – ช่วยล่อหมึกได้ดีในสภาพน้ำใส
- แสงสีเขียว – มีประสิทธิภาพในการดึงดูดหมึกในสภาพน้ำขุ่น
- การเลือกไฟล่อหมึก: ควรเลือกไฟที่สามารถติดตั้งได้ง่ายและมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน
เทคนิคการตกหมึกสำหรับมือใหม่
การตกหมึกในเวลากลางคืน
การตกหมึกในเวลากลางคืนถือเป็นหนึ่งในเทคนิคที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด เนื่องจากหมึกมักจะออกมาหากินในช่วงเวลานี้มากกว่ากลางวัน การที่หมึกออกหากินในเวลากลางคืนจะทำให้การจับหมึกมีโอกาสมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคต่างๆ ที่สามารถช่วยดึงดูดหมึกให้มาใกล้เหยื่อได้
ใช้ไฟฉายหรือไฟ LED
การใช้ไฟฉายหรือไฟ LED จะเป็นการสร้างแสงที่กระตุ้นหมึกให้มาหาเหยื่อ เมื่อเรากระตุ้นแสงในน้ำ หมึกจะถูกดึงดูดให้เข้ามาหาเหยื่อที่เรากำลังใช้ได้ง่ายขึ้น คุณสามารถเลือกไฟที่มีแสงสีฟ้า หรือสีเขียว เพราะหมึกมักชอบแสงในช่วงคลื่นความยาวของแสงเหล่านี้มากที่สุด แสงจากไฟ LED หรือไฟกระพริบ จะช่วยให้หมึกเข้ามาหาเหยื่อในช่วงเวลากลางคืนและทำให้การตกหมึกของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ แสงยังช่วยให้คุณเห็นเหยื่อของคุณในน้ำได้ชัดเจนขึ้น
เทคนิคการเหวี่ยงเหยื่อ
เมื่อคุณเลือกเหยื่อที่เหมาะสมแล้ว สิ่งที่สำคัญถัดมาคือวิธีการเหวี่ยงเหยื่อเพื่อให้หมึกเข้ามาหาเหยื่ออย่างง่ายดาย เทคนิคนี้สามารถทำให้คุณมีโอกาสจับหมึกได้มากขึ้นหากใช้อย่างถูกต้อง
การเหวี่ยงเหยื่อลงน้ำ
เริ่มจากการเหวี่ยงเหยื่อไปในน้ำแล้วรอให้เหยื่อจมลงไปสู่พื้นน้ำก่อน เพื่อให้เหยื่อเคลื่อนที่ตามธรรมชาติในน้ำจากการไหลของกระแสน้ำ หลังจากนั้น ค่อยๆ ดึงเหยื่อขึ้นมาช้าๆ โดยให้มีการกระตุกคันเบ็ดเบาๆ เพื่อจำลองการเคลื่อนไหวของปลาหมึกในน้ำ การกระตุกเหยื่อเบาๆ จะทำให้เหยื่อมีการเคลื่อนไหวคล้ายกับการล่าของปลาหมึก ซึ่งจะทำให้หมึกตื่นตัวและสนใจเหยื่อมากขึ้น คุณควรเปลี่ยนทิศทางการดึงเหยื่อบ้างเพื่อให้หมึกสามารถมองเห็นเหยื่อได้จากทุกทิศทาง
การปรับทิศทางการดึง
อย่าดึงเหยื่อไปในทิศทางเดียวตลอดเวลา ควรเปลี่ยนทิศทางบ้าง เช่น ดึงเหยื่อเป็นวงกลม หรือลากเหยื่อไปในเส้นทางเฉียง ซึ่งจะทำให้หมึกสังเกตเห็นเหยื่อได้ชัดเจนขึ้นและเพิ่มโอกาสให้หมึกเข้ามาจับเหยื่อ
การใช้เหยื่อปลอม (Squid Jig)
การตกหมึกด้วยเหยื่อปลอมเป็นเทคนิคที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการล่อหมึก เหยื่อปลอมที่ใช้มักจะเป็น Squid Jig หรือที่เรียกว่า “เหยื่อปลาหมึก” ซึ่งเป็นเหยื่อที่มีลักษณะเหมือนกับปลาหมึกจริง และมีสีสันสะดุดตา
วิธีการใช้เหยื่อปลอม (Jigging Lure)
ในการตกหมึกด้วยเหยื่อปลอม ให้โยนเหยื่อลงไปในน้ำแล้วใช้การกระตุกคันเบ็ดเบาๆ เพื่อทำให้เหยื่อเคลื่อนไหว เหยื่อปลอมที่ใช้จะมีลักษณะคล้ายกับปลาหมึกจริง ๆ ซึ่งจะช่วยดึงดูดหมึกที่กำลังหากินในน้ำ
เลือกสีของเหยื่อปลอม
การเลือกสีของเหยื่อก็มีผลต่อการตกหมึกด้วยเช่นกัน หมึกมักจะชอบสีที่สดใส เช่น สีชมพู, สีฟ้า, หรือสีขาว ดังนั้น การเลือกเหยื่อที่มีสีสันโดดเด่นจะช่วยเพิ่มโอกาสในการจับหมึก
การตกหมึกแบบหย่อน (Drifting)
เทคนิคการตกหมึกแบบหย่อนจะเหมาะกับสถานการณ์ที่มีน้ำลึก โดยใช้เหยื่อที่มีน้ำหนักพอสมควรให้ลงไปถึงก้นทะเลหรือจุดที่หมึกอาจจะอาศัยอยู่ในบริเวณนั้น
การใช้เหยื่อที่มีน้ำหนัก
เลือกเหยื่อที่มีน้ำหนักพอเหมาะเพื่อให้สามารถลงไปถึงก้นน้ำได้เร็วและอยู่ในตำแหน่งที่หมึกอาจจะเคลื่อนไหวอยู่ เมื่อเหยื่อจมลงไปถึงก้นน้ำแล้ว ค่อยๆ ดึงขึ้นมาในช่วงเวลาสั้นๆ โดยให้มีการกระตุกเบาๆ เพื่อดึงดูดความสนใจจากหมึก
การตกในพื้นที่น้ำลึก
การตกหมึกในที่น้ำลึกจะช่วยให้คุณมีโอกาสเจอหมึกที่อาจจะอยู่ในชั้นน้ำลึกที่หายาก หากคุณใช้เหยื่อที่เหมาะสมและเทคนิคการตกที่ถูกต้อง คุณจะสามารถตกหมึกได้ง่ายขึ้น
มองหาสัญญาณจากหมึก
เมื่อหมึกกัดเหยื่อแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการรู้วิธีการดึงคันเบ็ดให้ถูกต้อง
การรอให้หมึกผูกปากกับเหยื่อ
เมื่อหมึกกัดเหยื่อ ให้รอไม่กี่วินาทีเพื่อให้หมึกได้ผูกปากกับเหยื่อแล้วจึงค่อยดึงคันเบ็ดขึ้น การรอดึงให้หมึกผูกปากกับเหยื่อจะช่วยลดโอกาสที่หมึกจะหลุดไป
การดึงคันเบ็ดอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เมื่อหมึกยกตัวขึ้นจากน้ำ อย่าพยายามดึงคันเบ็ดอย่างรุนแรง เพราะการดึงแรงๆ อาจทำให้เหยื่อหลุดจากปากหมึกได้ ควรค่อยๆ ดึงและพยายามใช้แรงที่พอเหมาะเพื่อให้หมึกไม่หลุด