AdminFr

แคมป์ปิ้งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองและมองหาความสงบของธรรมชาติ การตั้งแคมป์ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ แต่ยังเป็นโอกาสที่จะเชื่อมโยงกับธรรมชาติและผู้ร่วมทางในบรรยากาศที่อบอุ่น ดังนั้น สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นจากที่ไหนดี ในบทความนี้ Bukkaluy ขอแนะนำ 10 จุดกางเต็นท์ ที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น รับรองว่าสวยงาม เดินทางสะดวก และมีความปลอดภัย 10 จุดกางเต็นท์ทั่วไทย สำหรับมือใหม่ ไปง่าย สบาย ไม่ลำบากชัวร์! 1. แก่งกระจาน เริ่มต้นการแคมป์ปิ้งแบบง่ายๆ ที่ “แก่งกระจาน” ที่ตั้งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ พร้อมลานกางเต็นท์หลากหลายจุด เช่น บริเวณอ่างเก็บน้ำริมเขื่อนหรือแคมป์บ้านกร่าง ซึ่งมีที่จอดรถและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แนะนำให้ไปที่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ ที่มีโซนให้เลือกถึง 4 จุด โดยเฉพาะโซนริมอ่างเก็บน้ำที่วิวสวยมาก! 2. เจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า อีกหนึ่งจุดที่คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติใกล้กรุงในบรรยากาศสุดโรแมนติก ที่นี่มีกิจกรรมหลากหลายให้เลือกทำ เช่น เดินป่าดูนกและเยี่ยมชมน้ำตก 5 แห่ง หรือชมเห็ดแชมเปญในช่วงฤดูฝน นอกจากนี้ยังมีวิวที่สวยงามในทุกฤดูกาล! 3. ภูทับเบิก ถ้าคุณชอบวิวทะเลหมอก ภูทับเบิกจะไม่ทำให้ผิดหวัง โดยเฉพาะในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม ทะเลหมอกจะหนาแน่นสุดๆ ที่นี่มีทั้งลานกางเต็นท์ของชุมชนและรีสอร์ทให้เลือก พร้อมบริการร้านอาหารและห้องน้ำสะดวกสบาย 4. […]

การตั้งแคมป์ปิ้งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติและผ่อนคลายจากชีวิตประจำวัน แต่เพื่อให้การตั้งแคมป์ของคุณเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและปราศจากปัญหา ในบทความนี้ Bukkaluy มี 12 ข้อควรปฏิบัติและมารยาทสำหรับสายแคมป์ปิ้งที่ควรรู้และนำไปปฏิบัติมาฝาก 12 ข้อควรรู้และมารยาทสำหรับสายแคมป์ปิ้งให้ปลอดภัยและสนุกสนาน 1. เลือกอุปกรณ์การตั้งแคมป์ที่เหมาะสม การเตรียมอุปกรณ์แคมป์ปิ้งที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ช่วยให้การตั้งแคมป์เป็นประสบการณ์ที่สนุกและปลอดภัย คุณควรเลือกเต็นท์ที่เหมาะกับฤดูกาล เช่น เต็นท์กันน้ำสำหรับฤดูฝน เต็นท์ที่มีผนังสองชั้นสำหรับฤดูหนาวเพื่อช่วยลดการเกิดน้ำค้างภายใน รวมถึงถุงนอนที่สามารถเก็บความร้อนในตัวได้ดี สำหรับอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น เสื่อรองนอน ควรเลือกแบบที่กันความชื้นและมีน้ำหนักเบาเพื่อความสะดวกในการพกพา และอย่าลืมไฟฉายหรือโคมไฟที่มีแบตเตอรี่สำรอง เพื่อให้คุณมองเห็นได้ในยามค่ำคืน นอกจากนี้ ควรเตรียมชุดปฐมพยาบาลและเครื่องครัวพกพาที่ใช้งานง่าย เพื่อให้การแคมป์ปิ้งของคุณมีความราบรื่นยิ่งขึ้น 2. ตั้งแคมป์ในบริเวณที่กำหนด การปฏิบัติตามข้อกำหนดของสถานที่ตั้งแคมป์เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อความปลอดภัยและการรักษาสภาพแวดล้อม พื้นที่ตั้งแคมป์ที่ได้รับการจัดการอย่างดี เช่น อุทยานแห่งชาติ หรือสถานที่ตั้งแคมป์เอกชน มักมีการจัดโซนสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ เช่น โซนสำหรับการตั้งเต็นท์ โซนสำหรับทำอาหาร หรือโซนจอดรถ Campervan ซึ่งการปฏิบัติตามกฎระเบียบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือความขัดแย้งกับนักแคมป์คนอื่น ๆ 3. หลีกเลี่ยงการตั้งแคมป์ใต้ต้นไม้ใหญ่ พื้นที่ใต้ต้นไม้ใหญ่อาจดูร่มรื่นและเย็นสบาย แต่กลับมีความเสี่ยงสูงในสถานการณ์ที่เกิดลมแรงหรือพายุ เพราะกิ่งไม้ใหญ่ที่เปราะบางอาจหักลงมาได้ หรือในกรณีที่ต้นไม้มีรากไม่แข็งแรงก็อาจล้มทับเต็นท์ของคุณได้เช่นกัน หากต้องตั้งแคมป์ใกล้ต้นไม้ ควรตรวจสอบสภาพต้นไม้ว่าไม่มีรอยแตกหรือรอยหักของกิ่งที่ดูเป็นอันตราย 4. ห้ามตั้งแคมป์ในพื้นที่ลาดชายเขา พื้นที่ลาดชันใกล้ชายเขามักมีวิวที่สวยงาม

การจัดกระเป๋าเพื่อไปเดินป่าเป็นเรื่องสำคัญที่มือใหม่ต้องให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยกระจายน้ำหนักและลดอาการเมื่อยล้าระหว่างเดินทางแล้ว ยังช่วยให้คุณเดินป่าได้อย่างปลอดภัยและสบายตัวมากขึ้น บทความนี้ Bukkaluy มีคำแนะนำดีๆ สำหรับการจัดกระเป๋าเดินป่าแบบครบถ้วน เพื่อให้การผจญภัยของคุณสนุกและไม่มีสะดุด 6 วิธีจัดกระเป๋าเดินป่า ฉบับมือใหม่ เตรียมพร้อมให้พร้อมลุย! ขั้นตอนที่ 1 – จัดเตรียมเครื่องนอน เริ่มกันที่เครื่องนอน เพราะมันเป็นสิ่งที่เราใช้เฉพาะตอนตั้งแคมป์เท่านั้น อย่างถุงนอน ชุดนอน และหมอน ให้จัดหมอนกับชุดนอนไว้ล่างสุดเพื่อรองรับของหนัก แล้วตั้งถุงนอนไว้แนวตั้งด้านบนเพื่อเหลือพื้นที่ให้ของอื่นเทคนิคง่ายๆ คือ พับชุดนอนให้เล็กที่สุด ม้วนถุงนอนให้แน่นที่สุด จะช่วยประหยัดพื้นที่ในกระเป๋าได้แบบเวิร์กๆ เลย! ขั้นตอนที่ 2 – กระจายน้ำหนักให้สมดุล การวางของในกระเป๋าไม่ได้แค่โยนๆ ใส่ไปนะ แต่ต้องวางให้ถูกจุด! เต็นท์: วางให้ชิดหลัง ตำแหน่งใกล้สะโพก ถุงนอน: อยู่ติดกับเต็นท์เพื่อเพิ่มสมดุล ของใหญ่ๆ อย่างอุปกรณ์ทำอาหาร: วางกลางกระเป๋าให้ชิดหลังที่สุด น้ำหนักที่สมดุลช่วยลดอาการเมื่อยหลังและทำให้เดินได้คล่องขึ้น ไม่งั้นจะเจอปัญหากระเป๋าดึงตัวไปด้านใดด้านหนึ่งแน่นอน ขั้นตอนที่ 3 – เติมช่องว่างด้วยเสื้อผ้า แม้ของหนักจะอยู่ในกระเป๋าแล้ว อย่าลืมใช้เสื้อผ้าที่เหลือเติมพื้นที่ว่างเพื่อความสมดุล เสื้อกันหนาว เสื้อบางๆ หรือชุดที่ไม่จำเป็นขณะเดิน เอามาใส่ในช่องที่เหลือ

พูดถึงทะเลหมอก หลายคนอาจนึกถึงภาพทะเลหมอกที่งดงามในภาคเหนือ แต่รู้หรือไม่ว่า ใกล้กรุงเทพฯ เองก็มีจุดชมทะเลหมอกที่สวยไม่แพ้ใคร และเดินทางสะดวก เหมาะสำหรับคนที่อยากสัมผัสธรรมชาติในช่วงเวลาสั้นๆ โดยไม่ต้องเดินทางไกล ในบทความนี้ Bukkaluy จะพาไปดูกันว่ามีที่ไหนบ้างที่คุณควรไปเยือน! ไม่ต้องขึ้นเหนือก็ฟินได้ แนะนำ 5 จุดชมทะเลหมอกใกล้กรุงฯ 1. ยอดเขาเทวดา อุทยานแห่งชาติพุเตย จ.สุพรรณบุรี ยอดเขาเทวดาเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สูงที่สุดในจังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติพุเตย อำเภอด่านช้าง ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 250 กิโลเมตร เส้นทางเดินขึ้นยอดเขาเทวดาเหมาะสำหรับผู้รักการผจญภัย โดยเฉพาะการเดินป่าที่ต้องใช้เวลา 2 วัน 1 คืน เส้นทางเริ่มจากน้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ ผ่านลำธาร สู่น้ำตกตะเพินคี่น้อย และพักค้างคืนเพื่อชมทะเลหมอกในยามเช้าบนยอดเขา ข้อมูลติดต่อ อุทยานแห่งชาติพุเตย โทร: 0-3544-6237, 08-1934-2240 2. เขาพะเนินทุ่ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เขาพะเนินทุ่งในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นสถานที่ชมทะเลหมอกที่สามารถพบเห็นได้ตลอดทั้งปี ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 180 กิโลเมตร บนยอดเขานี้ คุณจะได้สัมผัสทะเลหมอกที่สวยงาม พร้อมบรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน สำหรับผู้ที่ไม่มีรถโฟร์วีล

หากคุณกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจใกล้กรุงเทพที่สามารถสัมผัสธรรมชาติแบบเต็มอิ่มพร้อมทั้งดื่มด่ำกับบรรยากาศทะเลใส หาดทรายขาว และเสียงคลื่นที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจ ในบทความนี้ bukkaluy จะพาคุณไปรู้จักกับ 5 จุดกางเต็นท์ริมทะเลที่ไม่ควรพลาด ทั้งวิวสวย บรรยากาศดี และราคาคุ้มค่า เหมาะสำหรับการพักผ่อนในวันหยุดแบบไม่ต้องเดินทางไกล 5 จุดกางเต็นท์ริมทะเล หาดสวยน้ำใส นอนฟังเสียงคลื่นแบบชิลล์ๆ 1. สโลว์ไลฟ์ แคมป์ปิ้ง, ชลบุรี (Slow Life Camping) เริ่มต้นทริปแคมป์ปิ้งของคุณด้วย Slow Life Camping ที่พักริมทะเลสุดชิคในจังหวัดชลบุรี จุดเด่นของที่นี่คือเต็นท์สีขาวสะอาดตาที่ตั้งเรียงรายอยู่บนชายหาดนภาธาราภิรมย์ เต็นท์มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกพัก ไม่ว่าจะเป็นเต็นท์เบลคลาสสิกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศเรียบง่าย หรือเต็นท์โดมใสที่คุณสามารถชมวิวทะเลได้จากภายในเต็นท์นอกจากการนอนเต็นท์แล้ว ที่นี่ยังมีบ้านพักสำหรับครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบายเพิ่มเติม พร้อมบริการอาหารเช้ารวมอยู่ในราคาที่พัก สำหรับคนรักธรรมชาติที่อยากได้ความสงบในบรรยากาศส่วนตัว Slow Life Camping ตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน ราคาลานกางเต็นท์ เต็นท์เบลสีขาว : 400 บาท/คน (รวมอาหารเช้าและอุปกรณ์การนอน) เต็นท์โดมใส : 1,900 บาท/คืน บ้านพักเริ่มต้น : 1,200 บาท/คืน ที่อยู่และช่องทางติดต่อ ที่อยู่

หากคุณกำลังมองหาที่พักผ่อนในวันหยุดที่ได้สัมผัสธรรมชาติ ชลบุรีเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเพราะเดินทางสะดวก ใกล้กรุงเทพฯ ชลบุรีไม่ได้มีดีแค่ทะเล แต่ยังเป็นแหล่งรวมลานกางเต็นท์สุดฟินสำหรับสายแคมป์ปิงที่อยากพักผ่อนในบรรยากาศธรรมชาติ ใกล้ชิดกับความสงบของป่าเขาและลำธาร ในบทความนี้ bukkaluy จะพาคุณไปสำรวจ 5 ลานกางเต็นท์ชลบุรี ที่คุณไม่ควรพลาด! ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม แล้วออกไปสัมผัสกับธรรมชาติกัน! แนะนำ 5 ลานกางเต็นท์ชลบุรี เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม แล้วไปแคมป์กัน! 1. บ้านบอสแคมป์ปิ้ง (Baan Boss Camping) สัมผัสธรรมชาติใกล้ชิดในบรรยากาศริมน้ำ พร้อมมุมถ่ายรูปสวย ๆ ที่ บ้านบอสแคมป์ปิ้ง กิจกรรมที่นี่มีให้เลือกมากมาย ทั้งพายเรือ เล่นน้ำ หรือแค่พักผ่อนสบาย ๆ ท่ามกลางธรรมชาติ ราคาลานกางเต็นท์ ผู้ใหญ่ คนละ 200 บาท/คืน เด็กอายุ 12-15 ปี คนละ 100 บาท/คืน เด็กอายุน้อยกว่า 12 ปี ฟรี รายละเอียด มีไฟฟ้าให้ใช้ ปลั๊กไฟหลายจุด ห้องน้ำสะอาดมาก แยก

ปลายปีแบบนี้อากาศเริ่มเย็นสบาย ต้นไม้เขียวขจี บรรยากาศเหมาะสุด ๆ สำหรับการออกไปแคมป์ปิ้งรับลมหนาวและเก็บภาพสวย ๆ มาทำคอนเทนต์ วันนี้ bukkaluy ได้รวบรวม 5 พิกัดแคมป์ปิ้งใกล้กรุงเทพที่บรรยากาศดี น่าเช็กอินรับลมเย็นสบายในปี 2024 ไม่ว่าจะเป็นสายแคมป์มือใหม่หรือมือเก๋าก็ต้องถูกใจแน่นอน บอกเลยว่าแต่ละที่เหมาะมากสำหรับการไปสัมผัสธรรมชาติและเก็บเกี่ยวความฟินให้เต็มที่! ชี้เป้า 5 พิกัดแคมป์ปิ้งใกล้กรุงเทพ เดินทางง่าย บรรยากาศดี 1. ต้นน้ำ โฮมสเตย์ ราชบุรี ต้นน้ำ โฮมสเตย์ จุดกางเต็นท์ยอดนิยมใน จ.ราชบุรี โอบล้อมด้วยธรรมชาติและหุบเขา ให้บรรยากาศเงียบสงบและร่มรื่น เหมาะสำหรับสายแคมปิ้งที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ที่นี่เปิดให้ผู้เข้าพัก Walk-in โดยไม่ต้องจองล่วงหน้า มีลานกางเต็นท์กว้างขวางพร้อมสองโซนให้เลือก ทั้งริมน้ำและลานสนามหญ้า ให้คุณเลือกมุมกางเต็นท์ที่ชอบได้เองสำหรับโซนลำธารน้ำใส เหมาะกับการปิกนิกและเพลิดเพลินกับอาหารที่เตรียมมาในบรรยากาศเย็นสบาย เงียบสงบ แถมยังมีผลไม้ตามฤดูกาลให้ลิ้มลอง เป็นสถานที่ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติส่วนบ้านพักมีให้บริการ แต่ต้องจองล่วงหน้า สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ฟรีโดยไม่จำกัดขนาด เพียงแต่ต้องดูแลให้ไม่รบกวนผู้อื่น บริเวณส่วนกลางมีบริการต่อพ่วงไฟฟ้าสำหรับชาร์จมือถือและสูบที่นอนเป่าลม อย่างไรก็ตาม สัญญาณโทรศัพท์มีเฉพาะเครือข่าย AIS เท่านั้น ราคาลานกางเต็นท์ ริมน้ำ ราคาคนละ 200 บาทต่อคืน